“ดาวโจนส์ฟิวเจอร์” รูด 483 จุด เหลือ 33,977 จุด คาดนักลงทุนผวา “เอเวอร์แกรนด์” ส่อเบี้ยวหนี้ เสี่ยงกระทบธุรกิจวงกว้าง หลัง บริษัทยอมรับขาดสภาพคล่อง พ่วง “สภาคองเกรส” มีโอกาศอนุมัติขึ้นภาษีนิติบุคคลเป็น 26.5% จากเดิม 21% กระทบต่อผลประกอบการบจ. จับตาประชุมเฟด 21-22 ก.ย. นี้หลังสงสัญญาณหั่น QE
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงถงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดดิ่งลงกว่า 400 จุด เนื่องจากนักลงทุนก้งวลว่า ความเสี่ยงที่เอเวอร์แก
รนด์จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้นั้น อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจในภาคส่วนอื่นๆ เป็นวงกว้าง นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยว
กับความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐจะปรับขึ้นภาษีนิติบุคคล รวมทั้งความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดวงเงินซื้อ
พันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วขึ้น
โดย ณ เวลา 15.28 น. ตามเวถาไทย ด้ชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงถง 483 จด หรือ -1.40% แตะที่ 33,977 จุด
ขณะที่ราคาหุ้นไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ซึ่เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของจีน ทรุดตัวลงกว่า 17% ในการซื้อขายที่
ตลาดหุ่นฮ่องกง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ความเสี่ยงที่เอเวอร์แกรนต์จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้นั้น อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ
ในภาคส่วนอื่นๆ เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ เอเวอร์แกรนด์ อรับว่าบริษัทกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด นอกจากนี้ เอเวอร์แก
รนด์ยังได้แจ้งระงับกรซื้อขายหุ้นกู้ภายในประเทศของทางบริษัท ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่าอาจปู่ทางไปสู่การปรับโครงสร้างหนี้ หรือ
อาจนำไปสู่การผิดนัตชำระหนี้
โดยแถร์รี อดัม นักวิเคราะห์จากบริษัท Raymond James กล่าวว่า ตลาดถูกกตต้นจากหลากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงข่าวรัฐบาลจีน
ใช้มาตรการควบคุมภาคเอกชน, ความกังวลเกี่ยวกับเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ และความเป็นไปได้ที่สภาคองเกรสสหรัฐอาจ
ให้การอนุมัติการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากปัจจบันที่ระดับ 21% เปิน 26.5% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของ
บริษัทจดทะเบียน
นอกจากนี้นักถงทุนจะจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ รวมทั้งจับตการแถลงของนายเจอโรม
พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณการปรับลดวงเงินในโครงการ QE และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟต
อีกทั้งนักลงทุนยังจับตารายงานผลประกอบกรของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งวมถึงบริษัทไนกี้, เฟดเอ็กซ์ และคอสโค
Credit : https://www.kaohoon.com/news/479075